รายละเอียดเพิ่มเติม
เมล็ดพันธุ์งาดำ
เมล็ดพันธุ์งาดำ อินทรีย์ของเราเน้นคัดสรรเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ เมล็ดมีความสมบูรณ์มากที่สุด เราจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักสลัดหลากหลายชนิด และมีเมล็ดพันธุ์หลากหลายรายการให้ลูกค้าได้เลือกสรร
ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้คนจำนวนมากหันมาปลูกผักเพื่อทานกินเองในครอบครัว แบบปลูกในกระถางหรือปลูกในแปลงเล็กๆ แบบปลอดสารพิษ เราจึงในใจในเรื่องของการปลอดสารพิษเป็นอย่างมาก ขั้นตอนในการปลูกเราจึงปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี แต่จะบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และทำฮอร์โมนแสงอาทิตย์ สำหรับบำรุงต้น ส่วนวัชพืชเราได้ใช้วิธีการถอนมือ เพราะทางเราไม่ได้ปลูกจำนวนมาก ปลูกแบบครอบครัว ดูแลกันในแบบของครอบครัว ไม่ได้ออกแนวธุรกิจ ไม่ได้สกัดสารพันธุ์ของเมล็ด ทางลูกค้าสามารถนำไปปลูกและรอจนกว่าเมล็ดพันธุ์ของต้นงอกออกมา แล้วลูกค้าสามารถนำไปปลูกต่อได้เลย เพราะทางเราเป็นลูกหลานของเกษตรที่ทำการเพาะปลูกและก็ได้เก็บเมล็ดพันธุ์ต่อๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่รุ่นของบรรพบุรุษ
ช่องทางการสั่งซื้อ เมล็ดพันธุ์งาดำ อินทรีย์ ลูกค้าสามารถโทร หรือ ไลน์สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ ได้เลยนะคะ
เราขอขอบคุณที่อุดหนุนเมล็ดพันธุ์ของเรา
ลักษณะทั่วไปงาดำ
งาดำ เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุฤดูเดียว มีลำต้นตั้งตรง อาจแตกกิ่งหรือไม่แตกกิ่งแขนง ลำต้นสูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะสีเหลี่ยม มีร่องตามยาว ไม่มีแก่น มีลักษณะอวบน้ำ และมีขนสั้นปกคลุม เปลือกลำต้นบาง มีสีเขียว ใบงาดำ ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามกันเป็นชั้นๆตามความสูง ประกอบด้วยก้านใบสั้น ยาวประมาณ แผ่นใบมีรูปหอก สีเขียวสด กว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-16 เซนติเมตร โคนใบมนกว้าง ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย มีเส้นแขนงใบตรงข้ามกันเป็นคู่ๆยาวจรดขอบใบดอกงาดำเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มตรงซอกใบ จำนวน 1-3 ดอก ดอกย่อยมีก้านดอกสั้น มีกลีบรองดอก จำนวน 5 กลีบ ส่วนกลีบดอกมีลักษณะเป็นกรวย ห้วยลงดิน กลีบดอกอ่อนมีสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกเมื่อบานมีสีขาว ยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กลีบล่าง และกลีบบน โดยกลีบล่างจะยาวกว่ากลีบบน ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ 2 คู่ มี 1 คู่ยาว ส่วนอีกคู่สั้นกว่า ส่วนเกสรตัวเมียมี 1 อัน มีก้านเกสรยาว 1.5-2 เซนติเมตร ปลายก้านเกสรแหว่งเป็น 2-4 แฉก ผลงาดำเรียกว่า ฝัก มีลักษณะทรงกระบอกยาว ผิวฝักเรียบ ปลายฝักแหลมเป็นติ่ง และแบ่งออกเป็นร่องพู 2-4 ร่อง กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ฝักอ่อนมีสีเขียว และมีขนปกคลุม ฝักแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำอมเทา จากนั้น ร่องพูจะปริแตก เพื่อให้เมล็ดร่วงลงดิน ภายในฝักมีเมล็ดขนาดเล็ก สีดำจำนวนมาก เมล็ดเรียงซ้อนในร่องพู เมล็ดมีรูปรี และแบน ขนาดเมล็ดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดบางมีสีดำ มีกลิ่นหอม แต่ละฝักมีเมล็ดประมาณ 80-100 เมล็ด
ถิ่นกำเนิดงาดำ
งาดำมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา บริเวณประเทศเอธิโอเปีย แล้วแผ่กระจายไปยังอินเดีย จีน และประเทศต่างๆในแถบเอเชียรวมถึงประเทศไทยด้วย ส่วนในประเทศอินเดียมีการระบุว่ามีการปลูกงามาแล้วหลายพันปี ก่อนที่พ่อค้าชาวอาหรับ และเมดิเตอร์เรเนียลจะนำงาไปปลูกแถบอาหรับ และ ยุโรป
นอกจากนี้ยังมีผู้พบหลักฐานว่า ชาวบาบิโลนในประเทศโซมาเลียมีการปลูกงามานานกว่า 2,500 ปี ก่อนคริสตกาล และใช้นํ้ามันงาสำหรับทำยา และอาหาร ซึ่งมีบันทึกใน Medical Papyrus of Thebes กล่าวว่า ทหารโรมันได้นำงาไปปลูกในประเทศอิตาลีในคริสศตวรรษที่ 1 แต่ปรากฏว่าสภาพภูมิอากาศไม่เหมาะกับการปลูก และในช่วงปลายศตวรรษที่17 และ18 มีการนำงามาปลูกในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยทาสชาวแอฟริกัน
ด้านการใช้ประโยชน์จากงาดำนั้นอินเดีย จีน และประเทศอื่นๆ ในแถบเอเซียจะใช้งาทำเป็นนํ้ามันเพื่อปรุงอาหาร ส่วนชาวยุโรปจะนำงามาทำเค้ก ไวน์ และนํ้ามัน รวมถึงใช้ในการปรุงอาหาร และเป็นเครื่องหอม ส่วนชาวแอฟริกันใช้ใบงาทำ ดอกไม้เพลิง และพอกผิวหนัง และใช้เป็นสารไล่แมลงให้สัตว์เลี้ยงเป็นต้น
ประโยชน์และสรรพคุณงาดำ
- ช่วยบำรุงร่างกาย
- ช่วยบำรุงผม ผิวพรรณ กระดูก เล็บ
- ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุน
- แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ปวดบวม ลดการอักเสบ
- เป็นยาระบายอ่อนๆ
- ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน
- ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
- ช่วยให้นอนหลับสบาย
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยชะลอความแก่
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารรูปแบบและขนาดวิธีใช้ในปัจจุบันงาดำนั้นส่วนมากจะนิยมนำมาทำเป็นขนมหรือส่วนผสมของขนมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริโภคมากกว่าการใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ แต่ก็มีตำรายาไทยแผนโบราณที่ได้ระบุปริมาณการใช้เพื่อบำบัดรักษาโรคต่างๆ เช่น
- รักษาอาการปวดตามข้อ ใช้งาคั่วรับประทาน 2-3 ช้อนโต๊ะ 2-3 อาทิตย์
- รักษาอาการอ่อนเพลีย เมื่อตามร่างกาย รับประทานงาคั่ว 2-3 ช้อนโต๊ะ 2-3 อาทิตย์
- รักษาอาการเหน็บชา คั่วเมล็ดงา 1 ลิตร ร่วมกับรำข้าว 1 ลิตร และกระเทียมหั่น 1 กำมือ จากนั้น ตำบดผสมกัน และผสมน้ำผึ้งหรือน้ำตาลรับประทาน 1 เดือน
- รักษาอาการคัดจมูก ใช้งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับกับข้าวสุกหรือน้ำเต้าหู้รับประทาน 2-3 วัน
- รักษาอาการเป็นหวัด รับประทานงาคั่ว วันละ 4 ช้อนโต๊ะ
- รักษาอาการท้องผูก ใช้งาคั่วผสมกับเกลือรับประทานร่วมกับข้าว
- รักษาอาการปวดประจำเดือน รับประทานงาผง ½ ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง
- ใช้บำรุงสมอง และระบบประสาท ใช้งาคั่วผสมกับมะขามป้อม และน้ำผึ้ง รับประทานวันละ 1 ครั้ง
ขั้นตอนการปลูกงา (งาดำ, งาขาว และงาขี้ม่อน) ฉบับ Farm Organic seed
การเตรียมดิน
ดินเพาะต้นกล้า – วัสดุเพาะปลูกสำเร็จเช่น พีทมอส
-ดินปลูกผสมเอง ผสมดิน ขุยมะพร้าว ปุ๋ยคอก
ในอัตราส่วน 1:1:1 ผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1-2
สัปดาห์ หลีกเลี่ยงไม่ให้โดนฝนในระหว่างที่หมัก
แปลงดินเพาะปลูก
–ไถกลบดินบริเวณที่ต้องการทำการเพาะปลูกงา
ใช้ได้กับงาทั้งสามชนิด
หากเป็นที่ดินบริเวณเนินไม่ต้องยกร่องก็ได้ค่ะ
การปลูกงาแบบเป็นแถว
หลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว
สามารถใช้จอบขูดทำร่องเล็กๆสำหรับโรยเมล็ดงา
หรือหากมีคราดของรถไถจะช่วยทำให้สะดวกและประหยั
ดแรงมากขึ้นค่ะ ระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 50 ซม.
หลังจากเตรียมร่องสำหรับหว่านเมล็ดแล้วจึงโรยเมล็ดงาล
งในร่องโดยไม่ให้ชิดกันจนเกินไป และกลบด้านบนบางๆ
รดน้ำให้ชุ่มหลังจากหว่านและกลบเสร็จ
ในช่วงฤดูฝนคอยสังเกตหน้าดิน หากดินแห้งให้รดน้ำเพิ่มให้ดินชุ่มชื้น
เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกให้สังเกตบริเวณใดที่มีต้นขึ้นติดกันหรือไกล้กันเยอะ
ให้ถอนย้ายไปปลูกยังบริเวณที่ต้นกล้าไม่ค่อยงอกหรือบริเวณที่ว่าง
หลังจากต้นกล้ามีอายุประมาณ 3-4สัปดาห์สามารถเริ่มให้ปุ๋ยคอก
และสามารถเพิ่มปริมาณเมื่ออายุต้นงามากขึ้นค่ะ
*อายุการเก็บเกี่ยวงาใช้เวลาประมาณ 4-5เดือนฝักถึงจะเริ่มแก่และแห้งค่ะ*
การปลูกแบบเป็นแถวจะช่วยให้ง่ายต่อการดูแลและการเก็บเกี่ยวค่ะ
และการปลูกงาในช่วงกลางฤดูฝนไปจนถึงต้นฤดูหนาวจะช่วยให้ประหยัดเรื่องน้ำด้วยค่ะ