รายละเอียดเพิ่มเติม
เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศราชินี
เมล็ดมะเขือเทศราชินี อินทรีย์ของเราเน้นคัดสรรเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ เมล็ดมีความสมบูรณ์มากที่สุด เราจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักสลัดหลากหลายชนิด และมีเมล็ดพันธุ์หลากหลายรายการให้ลูกค้าได้เลือกสรร
ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้คนจำนวนมากหันมาปลูกผักเพื่อทานกินเองในครอบครัว แบบปลูกในกระถางหรือปลูกในแปลงเล็กๆ แบบปลอดสารพิษ เราจึงในใจในเรื่องของการปลอดสารพิษเป็นอย่างมาก ขั้นตอนในการปลูกเราจึงปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี แต่จะบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และทำฮอร์โมนแสงอาทิตย์ สำหรับบำรุงต้น ส่วนวัชพืชเราได้ใช้วิธีการถอนมือ เพราะทางเราไม่ได้ปลูกจำนวนมาก ปลูกแบบครอบครัว ดูแลกันในแบบของครอบครัว ไม่ได้ออกแนวธุรกิจ ไม่ได้สกัดสารพันธุ์ของเมล็ด ทางลูกค้าสามารถนำไปปลูกและรอจนกว่าเมล็ดพันธุ์ของต้นงอกออกมา แล้วลูกค้าสามารถนำไปปลูกต่อได้เลย เพราะทางเราเป็นลูกหลานของเกษตรที่ทำการเพาะปลูกและก็ได้เก็บเมล็ดพันธุ์ต่อๆกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่รุ่นของบรรพบุรุษ
ช่องทางการสั่งซื้อ เมล็ดมะเขือเทศราชินี อินทรีย์ ลูกค้าสามารถโทร หรือ ไลน์สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ได้เลยนะคะ
เราขอขอบคุณที่อุดหนุนเมล็ดพันธุ์ของเรา
อุปกรณ์
- เมล็ดพันธ์ุ เลือกพันธุ์ที่ต้องการ เช่น พันธุ์ที่ปลูกทานสด หรือพันธุ์ที่ส่งโรงงาน
- อุปกรณ์ในการเพาะต้นกล้า
- กระบะเพาะ ถาดเพาะ กล่องพลาสติก หรือถุงปลูก
- ดินผสม
- ขุยมะพร้าวหรือฟาง
- เครื่องมือการเกษตร เช่น พลั่ว ช้อนปลูก ส้อมพรวน คราด รถไถ มีด กรรไกรตัดแต่ง บัวรดน้ำ ท่อ ผาใบ และ สายยาง เป็นต้น เพื่อใช้ในช่วงที่มีการเตรียมดินก่อนที่จะเพาะปลูกลงดินจริง ตลอดจนการตัดแต่ง ดูแลรักษา และเก็บเกี่ยวผลผลิต
- สารชีวภาพและปุ๋ย ตั้งแต่การนำปูนขาวมาช่วยในการปรับสภาพดิน ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกผสมลงในแปลง ตลอดมาจนการใส่ปุ๋ยตามสูตรเพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตเพื่อพัฒนาใบ ดอกและการออกผล
ปลูกในสวนหลังบ้าน
ท่านสามารถเลือกปลูกมะเขือเทศได้เกือบทุกสายพันธุ์ โดยเริ่มจากการหาพื้นที่ในบริเวณบ้านที่มีแสงส่องตลอดทั้งวัน หรืออย่างน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน นำต้นกล้าอายุประมาณ 15 วันมาลงในแปลงปลูก โดยผู้ปลูกต้องให้น้ำอยู่เสมอ ตั้งแต่เริ่มต้นปลูกจนผลเริ่มแก่ และอย่าลืมหมั่นดูแลต้นมะเขือเทศโดยการใส่ปุ๋ยหรือสารชีวภาพ รวมถึงการกำจัดวัชพืชบริเวณแปลงผัก และป้องกันสัตว์อื่น ๆ ไม่ให้มาทำลายหรือทำให้เกิดโรคได้
ปลูกแบบแขวน
เป็นอีกวิธีที่สะดวกในเคลื่อนย้าย แต่ผู้ปลูกจำเป็นต้องรดน้ำบ่อยขึ้น เพราะต้นมะเขือเทศไม่ได้อยู่บนพื้นดิน และโครงสร้างวัสดุที่ใช้ก็ต้องแข็งแรง ทั้งนี้การปลูกแบบแขวนมีข้อดีอยู่มากและยังทำได้ง่ายอีกด้วย เพียงแค่นำต้นกล้ามะเขือเทศพันธุ์ใดก็ได้จากกระบะเพาะอายุประมาณ 7-10 วันมาปลูกลงในกระถาง แล้วนำลวดหรือวัสดุมายึดไว้ จากนั้นนำไปแขวนในพื้นที่ที่ต้องการ เพียงแค่นี้ก็เสร็จสิ้น เหมาะสำหรับท่านที่มีพื้นที่จำกัดแต่อยากปลูกผักไว้ทาน
ปลูกในถุง
อีกหนึ่งวิธีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ การปลูกมะเขือเทศในถุง ซึ่งวิธีการก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำต้นกล้าอายุประมาณ 7-10 วันจากกระบะเพาะ ย้ายมาปลูกในถุงดำขนาด 8 นิ้วขึ้นไป เมื่อต้นเริ่มโต ให้นำไม้มาทำหลักให้ต้นมะเขือเทศได้เกาะยึด จากนั้นก็ให้ปุ๋ยอินทรีย์เร่งใบ เร่งดอก หมั่นรดน้ำเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าลืมให้ต้นมะเขือเทศได้รับแสงแดดที่เพียงพอ
ฤดู
แม้ว่ามะเขือเทศจะเติบโตได้ดีและสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่การออกผลกลับต้องอาศัยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น ฤดูที่เหมาะที่สุดในการปลูกจึงเป็นฤดูหนาว โดยช่วงหยอดเมล็ดพันธุ์ควรอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพราะนอกจากจะเหมาะต่อการติดผลแล้ว ยังลงทุนต่ำกว่าฤดูอื่นและให้ผลิตสูง รวมถึงศัตรูพืชก็รบกวนน้อยอีกด้วย
การดูแล
- การพรวนดินกลบต้น: เพื่อสามารถให้น้ำได้อย่างสะดวก น้ำไม่ขัง ช่วยให้มะเขือเทศเกิดรากมากขึ้น โดยให้ทำในช่วงที่ต้นกล้าตั้งตัวได้แล้ว
- คลุมด้วยหญ้า: ให้นำหญ้าหรือฟางมาคลุมต้นจะช่วยกำจัดวัชพืชและกักเก็บความชื้นไว้ได้
- การปักค้าง: เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้ดี ดูแลและฉีดยากำจัดวัชพืชได้ทั่วถึง ควรทำก่อนระยะออกดอก
- เขย่าไม้ค้ำหรือหลักเบา ๆ : เพื่อเป็นการกระตุ้น ช่วยเพิ่มปริมาณการออกผล โดยทำสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 2-5 วินาที ให้ทำในช่วงที่เริ่มผลิดอก
- รดน้ำทุก 7-10 วัน: แต่สำหรับการปลูกแบบแขวนแนะนำให้รดน้ำ 3-5 วัน ซึ่งการรดน้ำแบบหยดหรือฝังท่อ จะดีกว่าการรดน้ำจากด้านบน
แอดไลน์สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ชบาเมเปิ้ลของเราได้ที่ LIND ID : f.jayjay
หรือ Add line ง่ายๆ แค่กด f.jayjay
ฝากกดติดตาม/หรือกดถูกใจเพจ Facebook สองพี่น้องอินทรีย์ฟาร์ม ของเราด้วยนะคะ